วันอาทิตย์ที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2557

ประชุมผู้บริหาร กศน.ในสังกัด และสรุปผลการจัดการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน การศึกษาต่อเนื่อง และการศึกษาตามอัธยาศัย ของบุคลากรในสถานศึกษา และบุคลากรในสังกัด สำนักงาน กศน.จังหวัดตรัง ประจำปีงบประมาณ 2557 ณ โรงแรมธรรมรินทร์ ธนา

วันศุกร์ที่ 26 กันยายน 2557 กศน.ตรัง โดยนายประวิตร  ทับเที่ยง  ผู้อำนวยการสำนักงาน กศน.จังหวัดตรัง และนางอธิชา  รจนะ รองผู้อำนวยการ สำนักงาน กศน.จังหวัดตรังประชุมผู้บริหาร กศน.ในสังกัด และสรุปผลการจัดการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน การศึกษาต่อเนื่อง และการศึกษาตามอัธยาศัย ของบุคลากรในสถานศึกษาและบุคลากรในสังกัด สำนักงาน กศน.จังหวัดตรัง  ประจำปีงบประมาณ 2557  ณ โรงแรมธรรมรินทร์ ธนา อำเภอเมือง จังหวัดตรัง  โดยในช่วงบ่ายได้มีการจัดงานมุทิตาจิตแด่ผู้เกษียณอายุราชการ แด่นางศรีอรุณ  เรืองฤทธิ์  ครูชำนาญการพิเศษ กศน.อำเภอห้วยยอด และนางสุดา  ชาญป้อม และนายปรีชา ชาญป้อม ครูชำนาญการพิเศษ กศน.อำเภอเมืองตรัง

 

วันอาทิตย์ที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

การประกันคุณภาพโดยต้นสังกัด กศน.อำเภอเมืองตรัง

เมื่อวันที่   8 - 10  กรกฎาคม  2557  ศูนย์ กศน.อำเภอเมืองตรังรับการประกันคุณภาพสถานศึกษาจากต้นสังกัด  โดย สำนักงาน กศน.จังหวัดตรัง  


















 
 

วันพุธที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

กศน. ศึกษาดูงาน ฮ่องกง - มาเก๊า 16-18 พ.ค. 2557

กศน.ศึกษาดูงาน ฮ่องกง - มาเก๊า  16-18 พ.ค. 2557  เลยขอแนะนำประวัติศาสตร์ฮ่องกงค่ะ

ประวัติศาสตร์ฮ่องกง

ประวัติศาสตร์ฮ่องกง
ประวัติศาสตร์ฮ่องกง
ฮ่องกงได้ก่อตั้งขึ้นเพื่อเป็นสถานที่สำหรับการดำเนินธุรกิจและการค้า และยังคงดำเนินตามวัตถุประสงค์ทั้งสองอย่างจริงจังและประสบความสำเร็จเรื่อยมา ฮ่องกงมีธนาคารที่ใหญ่เป็นอันดับที่สี่ของโลกรวมถึงเป็นศูนย์กลางทางการเงินในด้านสินทรัพย์ภายนอกประเทศ จึงเปรียบฮ่องกงเป็น ‘ตลาดหุ้นของเอเชีย' พร้อมสรรพด้วยบริการทั้งธนาคาร การประกันภัยระหว่างประเทศ การโฆษณา และการเผยแพร่ในหมู่อุตสาหกรรมที่ใหญ่ที่สุด นอกจากนี้ฮ่องกงยังเป็นประเทศผู้นำทางเศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับที่แปดในระดับการค้าโลกและเป็นหนึ่งในกลุ่มประเทศผู้ส่งออกสินค้าประเภทของเล่น เสื้อผ้า และนาฬิกาชั้นนำของโลก
ดูข้อมูลทั่วไปเพิ่มเติม »
ก่อนที่อังกฤษจะเข้ามาครอบครอง ฮ่องกงเป็นชุมชนชาวประมงเล็กๆ และเป็นสวรรค์สำหรับนักเดินทางและโจรสลัดในทะเลจีนใต้ ต่อมาช่วงทำสงครามฝิ่นกับจีนในศตวรรษที่ 19 อังกฤษได้ใช้เกาะฮ่องกงเป็นฐานทัพเรือ เมื่อสงครามฝิ่นครั้งแรกสิ้นสุดลงเกาะฮ่องกงได้ตกเป็นของอังกฤษเนื่องจากข้อตกลงตามสนธิสัญญานานกิงในปี ค.ศ. 1842 และเซอร์ เฮนรี่พอตทิงเกอร์ ได้ถูกแต่งตั้งให้เป็นผู้ว่าการรัฐคนแรก
ความขัดแย้งระหว่างอังกฤษและจีนยังคงดำเนินต่อไปเรื่อยๆ จนกระทั่งเมื่อปีค.ศ. 1860 อังกฤษได้ยึดเกาลูนและเกาะ Stonecutters ซึ่งเดิมอยู่ภายใต้การปกครองของประเทศจีนมาเป็นดินแดนของตนเองเพิ่มเติม ในปี ค.ศ.1898 อังกฤษบังคับให้จีนตกลงทำสัญญายินยอมให้อังกฤษเช่าเขตนิวเทอร์ริทอรี่ส์ซึ่งรวมถึงเกาะต่างๆใกล้เคียงจำนวน 235 เกาะ เป็นระยะเวลารวมทั้งสิ้น 99 ปี
การตั้งถิ่นฐานในบริเวณนี้เป็นไปอย่างช้าๆ ในตอนต้นของศตวรรษที่ 20 ฮ่องกงเป็นสถานที่หลบภัยสำหรับผู้ถูกเนรเทศจากประเทศจีนจากเหตุการณ์การก่อตั้งสาธารณรัฐประชาชนจีนเมื่อปี ค.ศ. 1912
หลังจากที่ญี่ปุ่นยึดแมนจูเรียในปี 1932 สงครามชิโน - ญี่ปุ่นจึงเริ่มขึ้นในปี 1937 ตลอดสามสิบปีหลังจากที่ญี่ปุ่นได้เข้าครอบครองประเทศจีน ชาวจีนหลายพันคนได้เข้าลี้ภัยในฮ่องกง ในปี 1937 มีผู้ลี้ภัยเข้าฮ่องกงประมาณ 100,000 คน ปี 1938 มีผู้ลี้ภัย 500,000 คนและในปี 1939 มีผู้ลี้ภัยจำนวน 150,000 คน ส่งผลให้ฮ่องกงมีจำนวนประชากรเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยมีประชากรรวม 1.6 ล้านคน เนื่องจากมีประชากรไหลทะลักเข้ามาเป็นจำนวนมาก ทำให้ประชากรประมาณ 500,000 คนไม่มีที่อยู่อาศัยและต้องใช้ริมถนนเป็นที่หลับนอน
สงครามโลกครั้งที่สองทำให้ชีวิตการจัดระเบียบทางสังคมและเศรษฐกิจของฮ่องกงพังทะลาย ในวันคริสต์มาสของปี 1941 กองทัพอังกฤษยอมจำนนและยกเกาะฮ่องกงแก่ญี่ปุ่น เรือดำน้ำของสหรัฐได้เข้าขัดขวางแผนการณ์ของญี่ปุ่นที่จะใช้ฮ่องกงเป็นฐานสำหรับการโจมตีต่อไปในภูมิภาคเอเชียตะวันออก ต่อมาญี่ปุ่นพ่ายแพ้ในสงครามเมื่อ 14 สิงหาคม 1945 อังกฤษจึงได้เขตดินแดนใหม่กลับคืนมา
หลังจากที่ญี่ปุ่นพ่ายแพ้ พลเรือนจีนก็กลับเข้ามาในอัตราเกือบ 100,000 คนต่อเดือน ทำให้ฮ่องกงมีมีจำนวนประชากรเพิ่มขึ้นประมาณ 1.8 ล้านคนในปลายปี 1947 จากนั้นในปี ค.ศ. 1948-1949 เป็นระยะเวลาที่กองกำลังของรัฐบาลจีนเริ่มจะเผชิญกับความพ่ายแพ้ในสงครามกับฝั่งคอมมิวนิสต์ ฮ่องกงจึงมีประชากรทะลักเข้าประเทศในปริมาณมากที่สุดเป็นประวัติศาสตร์ ประชากรหลายพันคนซึ่งส่วนใหญ่มาจากมณฑลกวางตุ้ง เซี่ยงไฮ้ และเมืองที่เป็นศูนย์กลางการค้าอื่นๆ ได้อพยพเข้ามาในช่วงปี 1949 ทำให้จำนวนประชากรในช่วงฤดูใบไม้ผลิของปี 1950 เพิ่มมากถึง 2.2 ล้านคน และตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาฮ่องกงมีประชากรเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในปัจจุบันมีประชากรรวมทั้งสิ้น เกือบ 7 ล้านคน
เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 1997 อังกฤษได้ทำพิธีส่งคืนเกาะฮ่องกงให้แก่จีนและจัดให้เป็นเขตปกครองพิเศษของสาธารณรัฐประชาชนจีนภายใต้นโยบายหนึ่งประเทศสองระบบ ในปี 1984 มีปฏิญญาร่วมชิโน-อังกฤษโดยให้สิทธิฮ่องกงในการดำเนินนโยบายทางเศรษฐกิจ ระบบกฎหมายและสังคมอย่างเสรีต่อไปได้อีกเป็นเวลา 50 ปีหลังจากปี 1997 ปัจจุบันฮ่องกงยังคงเป็นเมืองที่น่าสนใจและมีบทบาทขับเคลื่อนเศรษฐกิจในระดับนานาชาติมากที่สุดแห่งหนึ่งในโลก


ที่มา : http://www.hoteltravel.com/th/hongkong/hong_kong/history-of-hong-kong.htm








วันพุธที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2557

กศน.ตรัง ประชุมติดตามและสรุปผลการดำเนินงาน การจัดการศึกษานอกระบบและการศึกษา ตามอัธยาศัย ครึ่งปีงบประมาณ 2557 ประจำไตรมาสที่ 3/2557


เมื่อวันพุธที่ 30 เมษายน 2557 สำนักงาน กศน.จังหวัดตรัง  โดย นายประวิตร  ทับเที่ยง  ผู้อำนวยการ สำนักงาน กศน.จังหวัดตรัง  ประชุมติดตามและสรุปผลการดำเนินงาน
การจัดการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย ครึ่งปีงบประมาณ 2557 ประจำไตรมาสที่ 3/2557  ของสำนักงาน กศน.จังหวัดตรัง  ณ ห้องธนารมย์ 1 โรงแรมธรรมรินทร์ ธนา
จังหวัดตรัง  เพื่อติดตามผลการดำเนินงานที่ผ่านมา และมอบนโยบายและแนวทางในการปฏิบัติงานการศึกษานอกระบบและการศึกษาตาม อัธยาศัย เพื่อให้บรรลุตามนโยบายและ
จุดเน้นของสำนักงาน กศน. ต่อไป  ซึ่งมีผู้บริหาร กศน.อำเภอ และบุคลากรในสังกัด เข้าร่วมประชุมโดยพร้อมเพรียงกัน

ที่มา : http://trang.nfe.go.th/?name=news&file=readnews&id=722

วันเสาร์ที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2557

โครงการส่งเสริมการอนุรักษ์ประเพณีไทยการรดน้ำขอพรผู้ใหญ่ในวันสงกรานต์ ประจำปี 2557

สำนักงาน กศน.ตรัง ร่วมสืบสานประเพณีวัฒนธรรมและดำรง ไว้ซึ่งเอกลักษณ์ของชาติไทย
จัดกิจกรรมพิธีสรงน้ำพระ รดน้ำขอพรผู้ใหญ่ เนื่องในเทศกาลสงกรานต์ประจำปี 2557
วันที่ 10 เมษายน 2557 ณ ห้องประชุมสำนักงาน กศน.จังหวัดตรัง









นายขันธ์ชัย  บริบูรณ์  ผู้อำนวยการศูนย์ กศน.อำเภอเมืองตรัง  นำบุคลากรเข้าร่วมกิจกรรม

วันจันทร์ที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2557

โครงการวันรักการอ่าน 2 เมษา เสริมปัญญาสู่โลกกว้าง

นายประวิตร ทับเที่ยง ผู้อำนวยการ กศน.จังหวัดตรัง เป็นประธานพิธีเปิดโครงการวันรักอ่าน
ประจำปี 2557 
ห้องสมุดประชาชนจังหวัดตรัง กศน.อำเภอเมืองตรังโดยมีนายขันธ์ชัย บริบูรณ์
ผู้อำนวยการ กศน.อำเมืองเมืองตรัง กล่าวรายงานฯ ภายในงานมีการมอบเกียรติบัตรแก่ผู้ให้
การสนับสนุนกิจกรรมบ้านหนังสือ
อัจฉริยะของ กศน.อำเภอเมืองตรัง และมีการจัดกิจกรรม
ส่งเสริมการอ่าน
การเรียนรู้อาชีพและกิจกรรมอื่นๆ ซึ่งมีแขกผู้มีเกียรติ นักศึกษา และประชาชน
เข้าร่วมกิจกรรม












วันจันทร์ที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2557

ประชุมบรรณารักษ์สัญจร

สำนักงาน กศน.จังหวัดตรัง  งานการศึกษาตามอัธยาศัย จัดประชุมบรรณารักษ์
สัญจร  ณ ห้องสมุดประชาชนอำเภอรัษฎา จังหวัดตรัง  โดยมีบรรณารักษ์
ของห้องสมุดประชาชนทั้ง 10  แห่ง ของกศน.เข้าร่วม ประชุมเพื่อเป็นการ
แลกเปลี่ยนเรียนรู้ และขับเคลื่อนงานการศึกษาตามอัธยาศัย 

ร่วมทั้งรายงานผลการดำเนินงานห้องสมุดในรอบเดือนมีนาคมที่ผ่านมา 
โดยนางสุรีย์ นาคนิยม ศึกษานิเทศ สำนักงาน กศน.จังหวัดตรัง
เป็นประธานการประชุม
ในวันที่  24 มีนาคม 2557




วันอาทิตย์ที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2557

โครงการวันรักการอ่าน 2 เมษา เสริมปัญญาสู่โลกกว้าง


โครงการวันรักการอ่าน  2 เมษา เสริมปัญญาสู่โลกกว้าง
ศูนย์ กศน.อำเภอเมืองตรัง  ห้องสมุดประชาชนจังหวัดตรัง 
ขอเชิญร่วมงานวันรักการอ่าน  วันที่ 2  เมษายน  2557
เวลา 9.00 น.- 15.00น.
ณ ห้องสมุดประชาชนจังหวัดตรัง  ถ.พระรามหก  ต.ทับเที่ยง อ.เมือง จ.ตรัง




2 เมษายน วันรักการอ่าน

2 เมษายน วันรักการอ่าน
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม


          การพูด การอ่าน การเขียน การฟัง กริยาเหล่านี้ เป็นสิ่งที่เราทุกคนต้องปฏิบัติในชีวิตประจำวัน  แต่ปัจจุบันด้วยความที่เรามีเวลาที่จำกัด จึงทำให้คนไทยห่างเหินกับกิจกรรมเหล่านี้ โดยเฉพาะการอ่านหนังสือ รัฐบาลซึ่งเล็งเห็นความสำคัญของปัญหาดังกล่าว จึงได้กำหนดให้วันที่ 2 เมษายน ของทุกปี ซึ่งเป็นวันคล้ายวันพระราชสมภพของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ผู้ทรงมีคุณูปการต่อวงการหนังสือไทย เป็น "วันรักการอ่าน" ตั้งแต่ปี พ.ศ.2552 เป็นต้นมา

          ซึ่งจากรายงานของสำนักสถิติแห่งชาติพบว่า การ อ่านหนังสือของเด็กไทยจากเดิม 52 นาทีต่อวัน เหลือเพียง 39 นาที เนื่องจากเด็กและเยาวชน   ส่วนใหญ่ใช้เวลาไปกับการเล่นคอมพิวเตอร์และดูโทรทัศน์มากขึ้น  คณะกรรมการส่งเสริมการอ่านเพื่อเสริมสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ จึงกำหนด "วันรักการอ่าน" ขึ้นมา เพื่อรณรงค์และปลูกฝังให้เด็ก ๆ และเยาวชนหันมาอ่านหนังสือมากขึ้น
          โดยในแต่ละปีนั้น จะมีการจัดงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ และสัปดาห์หนังสือนานาชาติ (Bangkok International Book Fair) ขึ้นในช่วงเวลาของวันที่ 2 เมษายนของทุก ๆ ปี เพื่อให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของคณะกรรมการส่งเสริมการอ่านเพื่อเสริม สร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ ที่ต้องการให้ช่วงเวลาดังกล่าวเป็นช่วงเวลาของการอ่านหนังสือ โดยเด็ก ๆ และเยาวชน สามารถมาร่วมงานสัปดาห์หนังสือฯ เพื่อเลือกซื้อหนังสือดีราคาถูก ที่แต่ละสำนักพิมพ์ขนมาจำหน่ายในงาน ทั้งหนังสือภาพสำหรับเด็ก หนังสือนิทาน หนังสือวิชาการ หนังสือสารคดี หนังสือนวนิยาย หนังสือการ์ตูนประวัติศาสตร์ อาทิ ประวัติบุคคลสำคัญของไทย หรือ ประวัติบุคคลสำคัญของนานาประเทศ เป็นต้น

          แต่การสรรหาหนังสือ ไม่ใช่สิ่งที่สำคัญที่สุดในการปลูกฝังให้เด็กรักการอ่าน แต่ อยู่ที่ตัวของคุณพ่อคุณแม่ที่ต้องเข้าให้ถึงความต้องการของเด็ก ๆ โดยต้องรู้ก่อนว่า เด็กในวัยนี้อยากเรียนรู้เรื่องอะไร เพื่อที่คุณพ่อคุณแม่ จะได้สรรหาสิ่งนั้นมาให้อย่างถูกต้อง และตรงตามพัฒนาการที่เขาพร้อมจะเรียนรู้อย่างเข้าใจด้วย เพราะเด็กในแต่ละวัยมีพัฒนาการที่แตกต่างกัน และสุดท้ายคุณพ่อคุณแม่ ต้องไม่กังวลว่าบ้านจะรกเต็มไปด้วยหนังสือ เพราะการที่เด็ก ๆ เห็นหนังสือจนชินตา เขาก็จะรู้สึกคุ้นเคยและต้องการหยิบขึ้นมาอ่านเอง โดยที่ไม่ต้องบอกให้เขารักการอ่านเลย
          วันนี้ อาจยังไม่สาย หากคุณพ่อคุณแม่ จะเริ่มปลูกฝังให้ลูก ๆ ของท่านรักการอ่าน โดยเริ่มต้นง่าย ๆ ด้วยการหาหนังสือซักเล่มที่เหมาะสมกับวัย และพัฒนาการมาให้ลูก ๆ ของท่านได้อ่าน และเรียนรู้ที่จะมีหนังสืออยู่รอบ ๆ ตัวของเขาเอง

ที่มา : http://hilight.kapook.com/view/56954

8 เหตุผลที่ทำให้การอ่านเป็นเรื่องสำคัญ


8 เหตุผลที่ทำให้การอ่านเป็นเรื่องสำคัญ

 




ทุกคนรับทราบว่าการอ่านเป็นเรื่องสำคัญ แต่เคยมีใครถามตัวเองหรือไม่ว่ามันสำคัญอย่างไร ในบทความนี้ ผู้เขียนได้ขยายความออกมาเป็น 8 เหตุผลของความสำคัญของการอ่าน และหวังว่าผู้อ่านจะลองหาความสำคัญของการอ่านของตัวเองดูบ้างเพื่อจะได้พบ ความต้องการใหม่ๆในการเข้าไปสู่โลกของการอ่าน
1.       เปิดโอกาสให้ได้รับรู้สิ่งใหม่ๆ
ระหว่างการอ่าน คุณจะได้รับรู้สิ่งใหม่ๆ ข้อมูลใหม่ๆ และหนทางการแก้ปัญหาใหม่ๆ รวมไปถึงวิธีที่จะประสบความสำเร็จตามความต้องการใหม่ๆ ไปด้วย เป็นไปได้ว่าคุณอาจจะค้นพบงานอดิเรกใหม่ๆก็ได้ใครจะรู้? หรือคุณอาจจะพบสิ่งที่คุณชอบจนสามารถนำไปประกอบอาชีพต่อไปในอนาคตก็เป็นได้ เพราะการค้นพบ เริ่มจากการอ่านและทำความเข้าใจกับมันนั่นเอง
2.       พัฒนาตัวเอง
การอ่านช่วยส่งเสริมในการพัฒนาตนเอง คุณจะเข้าใจสภาพแวดล้อมรอบกายมากขึ้น คุณจะเข้าใจในหัวข้อที่คุณสนใจมากขึ้น เช่น วิธีสร้างความเชื่อมั่นในตัวเอง, วิธีการเพิ่มความสามารถในการจดจำ, วิธีที่จะวางแผนก่อนจะกระทำการใดๆ ซึ่งการพัฒนาตัวเองเหล่านี้สามารถสร้างได้จากการอ่านบทความดีๆสักเรื่องนึง
3.       เพิ่มพูนความเข้าใจ
ยิ่งคุณอ่านมาก คุณยิ่งเข้าใจมันมากขึ้น ยกตัวอย่างเช่นคุณอ่านเรื่องจระเข้ และพฤติกรรมของมัน เพื่อที่จะรู้วิธีหลบหลีกจากอันตรายที่จะเกิดขึ้นจากมัน หรือคุณอาจจะเข้าไปสัมผัสชีวิตของมันในประสบการณ์จริงได้อย่างปลอดภัยมาก ขึ้น นากจอกนี้การอ่านยังช่วยเพิ่มความเข้าใจในกฎเกณฑ์การใช้ชีวิตเพื่อที่จะปรับ เปลี่ยน และดำรงอยู่ในสังคมนั้นๆได้ เล่นเกมส์ได้อย่างง่ายดาย เป็นต้น
4.       เตรียมตัวก่อนตัดสินใจกระทำ
ก่อนที่คุณจะทำอะไรสักอย่างคุณจะค้นหาวิธีช่วยหรือการแนะนำได้อย่างไร การอ่านเป็นอีกวิธีที่จะช่วยคุณ ในโลกปัจจุบัน การได้อ่านคำแนะนำติชม หรือผลตอบรับจากผู้อื่นจะช่วยในการตัดสินใจของคุณในครั้งต่อไป อาจจะอ่านวิธีการทำอาหาร การเล่นหมากรุก หรือสถานที่ท่าน่าท่องเที่ยว อ่านเมนูก่อนสั่งอาหาร อ่านคู่มือการใช้งานก่อนเริ่มเล่นอุปกรณ์ใหม่ๆ
5.       ได้รับประสบการณ์ใหม่ๆจากผู้อื่น
ในระหว่างการอ่าน คุณจะได้รับรู้ความรู้และ/หรือ ประสบการณ์จากผู้อื่น (อย่างน้อยก็ผู้เขียน) ทำให้คุณประสบความสำเร็จได้เร็วขึ้น เพราะคุณไม่ต้องก้าวเข้าไปซ้ำความผิดพลาดของผู้อื่น ชีวิตคนเราสั้นเกินไปที่จะยอมทำผิดซ้ำซาก ยิ่งถ้าคุณค้นพบในสิ่งที่คนอื่นค้นพบแล้ว ในปัจจุบันมีมากกว่า 4000 คนที่เห็นเศรษฐีพันล้าน และมากกว่า 12 ล้านคนที่เป็นเศรษฐีเงินล้าน การที่จะเป็นเช่นนั้น เริ่มต้นจากการเรียนรู้และเข้าใจอดีตของคนเหล่านั้น การอ่านจึงเป็นปัจจัยสำคัญในการเรียนรู้มากที่สุด



6.       เครื่องมือในการสื่อสาร
การอ่านเป็นเครื่องมือสำคัญในการสื่อสาร ผ่านการอ่านคุณสามารถสื่อสารได้ และเข้าใจได้มากขึ้น และแน่นอนว่าคุณจะสื่อสารกับผู้อื่นได้ดีขึ้นด้วย สมมติว่าคนที่ไม่รู้อะไรเลย เขาจะไม่มีข้อมูลมาแบ่งปัน และจะไม่สามารถเข้าใจในเรื่องที่ผู้อื่นกำลังแบ่งปันกันและกัน โดยการอ่านเสมือนการที่คุณสร้างสะพานเชื่อมโยงสู่การสื่อสารอย่างแข็งแรง และเป็นอีกเครื่องมือสำคัญในการเชื่อมต่อกับผู้อื่นในโลกใบนี้
7.       ติดต่อกับสมอง
ระหว่างการอ่าน คุณจะนิ่งเงียบ ทำให้การเชื่อมต่อข้อมูลไปยังสมองทำได้โดยง่าย นอกจากนี้ในช่วงที่สงบ สมองของคุณจะกระจ่างและจดจ่อกับสิ่งที่คุณอ่านทำให้คุณสามารถเข้าใจมุมมอง ของผู้เขียนได้เป็นอย่างดี
8.       เสริมสร้างจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์
การอ่านนำท่านเข้าสู่โลกแห่งจินตนาการ แสดงให้เป็นว่าไม่มีสิ่งใดเป็นไปไม่ได้ ด้วยการอ่านคุณจะค้นพบแง่มุมใหม่ๆที่คุณอาจจะเคยสัมผัสแต่ไม่ได้รับรู้ หรือการกระทำที่เปลี่ยนไปและได้ผลลัพธ์ที่เปลี่ยนไป หนังสืออยู่เหนือจินตนาการ มันเหมือนโครงข่ายการเชื่อมต่อข้อมูลที่ยิ่งใหญ่ ที่จะสามารถเรียนรู้สิ่งใหม่ๆและคำตอบใหม่ๆได้ตลอดเวลา
แล้วในความเห็นของคุณ มองการอ่านว่ามีความสำคัญอย่างไรกันบ้าง?

ที่มา : http://www.bangkokworldbookcapital2013.com/home/readingproject_detail.asp?lang=th&id=6

โครงการส่งเสริมการอ่าน กิจกรรมหมุนเวียนสื่อ





ห้องสมุดประชาชนจังหวัดตรังได้ดำเินินโครงการส่งเสริมการอ่าน
กิจกรรมหมุนเวียนสื่อ  มุมหนังสือโรงพยาบาลตรัง  บขส.ตรัง
สถานีรถไฟตรัง  ท่าอากาศยานตรัง เพื่อเป็นการส่งเสริมการอ่านเชิงรุก



มุมหนังสือ ท่าอากาศยานตรัง


 มุมหนังสือโรงพยาบาลตรัง



มุมหนังสือสถานีรถไฟตรัง

มุมหนังสือ บขส.จังหวัดตรัง